ช่างไฟฟ้า
ช่างไฟฟ้า
นิยามอาชีพ
ทำงานทางเทคนิคภายใต้การแนะนำและควบคุมของวิศวกรไฟฟ้า โดยใช้ทฤษฎีความรู้เกี่ยวกับหลักการทางไฟฟ้า วิธีการทดสอบไฟฟ้า และวิชาการที่เกี่ยวข้องกันมาใช้ในการผลิต การก่อสร้าง การติดตั้ง การทดสอบ การใช้และการบำรุงรักษา การพัฒนาและแก้ไขเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าอุปกรณ์และส่วนประกอบต่าง ๆ : เตรียมแผนงาน รายงานปฏิบัติงาน ภาพสเกตซ์ รูปแบบ แผนภาพ ข้อมูล รายงาน และรายละเอียด ต่าง ๆ สำหรับการปฏิบัติงาน ใช้มือหรือเครื่องมือประกอบ ติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ ใช้งาน ปรับ ทำบันทึก ดูแล แก้ไข เปลี่ยนแปลง ซ่อม และปฏิบัติงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า อุปกรณ์และส่วนประกอบอื่น ๆ ตรวจหาสาเหตุที่ทำให้ระบบไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าขัดข้องหรือไม่ทำงานเพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุงและป้องกัน รวมทั้งทำงานด้านการบำรุงรักษาและซ่อมแซม ปฏิบัติงานด้านอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากวิศวกรไฟฟ้า
ลักษณะของงานที่ทำ
ทำงานทางเทคนิคภายใต้การแนะนำ และการควบคุมของวิศวกรไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ทฤษฎี อิเล็กทรอนิกส์หลักของวงจรไฟฟ้า วิธีการทดสอบ ไฟฟ้า คณิตศาสตร์ทางวิศวกรรมและวิชาการที่เกี่ยวข้องกันมาใช้ในการผลิตการ ก่อสร้าง การติดตั้ง การทดสอบ การใช้ และการบำรุงรักษา การพัฒนา การแก้ไข เปลี่ยนแปลง การซ่อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ และ ส่วนประกอบต่างๆทำงานติดตั้ง ซ่อมบำรุง ควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องกลไฟฟ้า เครื่องทำความเย็น และเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร และในงานอุตสาหกรรมช่างเทคนิคไฟฟ้าจะปฏิบัติงานในลักษณะผู้ควบคุมงาน ผู้ช่วยวิศวกร ในการออกแบบ เขียนแบบติดตั้งและซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบไฟฟ้าทั้งภายในและ ภายนอกอาคาร ระบบไฟฟ้าในงานอุตสาหกรรม อาจควบคุมช่างและคนงานที่ทำงานเกี่ยวกับการสร้าง การติดตั้ง และการซ่อมระบบหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ช่างเทคนิคไฟฟ้ามีหน้าที่รับผิดชอบงาน ดังนี้
1. ปรับแต่งควบคุมและตรวจเช็คเครื่องควบคุมไฟฟ้ากระแสสลับ เช่น ชุดควบคุมมอเตอร์ โดยคอนแทคเตอร์และชุดควบคุม อินเวนเตอร์แบบต่างๆ เป็นต้น
2. เดินสายไฟฟ้าระบบจ่ายพลังงาน และควบคุมเครื่องจักรในโรงงาน
3. ตรวจเช็ค ซ่อมแซม และติดตั้งเครื่องจักร ทางไฟฟ้า เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ตรวจเช็ค และอุปกรณ์ควบคุมการทำงานในกระบวนการผลิตของงานอุตสาหกรรม
4. ซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องมือวัดกระแส เครื่องมือวัดแรงดัน เครื่องมือวัดความต้านทาน เป็นต้น
5. ปฏิบัติงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย
สภาพการจ้างงาน
ผู้ประกอบอาชีพนี้ได้รับค่าตอบแทนการทำงานเป็นเงินเดือนที่แตกต่างกันไปตามความรู้ความชำนาญและสถานประกอบกิจการในอัตราเงินเดือนขั้นต่ำ ดังนี้
เงินเดือน
วุฒิการศึกษา ราชการ เอกชน
วุฒิบัตรพัฒนาฝีมือแรงงาน 4,000 - 4,500 6,000
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 4,700 6,000 - 6,500
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 5,740 6,500 - 7,500
เงินโบนัส ค่าล่วงเวลา เป็นต้น
อัตราเงินเดือนของผู้ประกอบอาชีพนี้ในภาคเอกชนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความสามารถและความชำนาญงาน นอกจากค่าตอบแทนในรูปเงินเดือนแล้วอาจได้รับค่าตอบแทนในรูปอื่นๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินสะสม เงินช่วยเหลือสวัสดิการใน รูปต่างๆ
สภาพการทำงาน
ผู้ปฏิบัติงานอาชีพนี้ทำงานทั้งในและนอกสถานที่ ทำงานในการตรวจ ซ่อม และบริการระบบควบคุมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในงานอุตสาหกรรมสภาพการทำงานหนักปานกลางต้องใช้ความอดทนต่อสภาพความร้อน เสียง กลิ่นของสารเคมี ทำความสะอาดอุปกรณ์และบางโอกาสทำงานตามลำพังต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบสูงพอสมควร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานและบางครั้งต้องทำงานเกินเวลา
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
คุณสมบัติของช่างเทคนิคไฟฟ้า
- สำเร็จการศึกษาขั้นต่ำระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่า หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
- ทำงานในระดับช่างฝีมือ หรือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทำงานในระดับช่างเทคนิค
- มีร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่องานอาชีพ
- มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร สามารถทำงานกลางแจ้ง
- มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ชอบการคิดคำนวณ มีความละเอียดรอบคอบ
- มีความเป็นผู้นำ และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความมั่นใจในตนเองสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ควรเตรียมความพร้อมต่อไปนี้
ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หลักสูตร 3 ปี ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรมสาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง (งานติดตั้งไฟฟ้า งานเครื่องกล ไฟฟ้า งานช่างเทคนิคในอาคารขนาดใหญ่ งานเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม และงานเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ) ในสถานศึกษาสังกัดกรมอาชีวศึกษาหรือสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลหรือสาขาวิชาไฟฟ้าในวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สามารถเข้าทำงานในระดับช่างฝีมือแรงงาน หรือศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตร 2 ปีประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรมสาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง (งานติดตั้งไฟฟ้า งานเครื่องกลไฟฟ้า งานช่างเทคนิคในอาคารขนาดใหญ่ งานเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม และงานเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ) ในสถานศึกษาสังกัด กรมอาชีวศึกษา หรือสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลหรือสาขาวิชาไฟฟ้าในวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สามารถเข้าทำงานในระดับช่างเทคนิค สำหรับแรงงานใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป สำเร็จการศึกษามัธยมปีที่ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไปฝึกในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) หรือ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด (ศพจ.) 10 เดือน และฝึกในสถานประกอบการอีก 2 เดือน รวมระยะเวลาฝึกทั้งหมด 12 เดือน จึงจะได้รับวุฒิบัตรพัฒนาฝีมือแรงงาน (วพร.) แนวการฝึกเน้นภาคปฏิบัติ 70% ความรู้ความสามารถที่รับการฝึกจะได้รับจากการฝึก ได้แก่ ไฟฟ้าโรงงาน เครื่องมือทดสอบ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระบบดิจิตอล และ ไมโครโปรเซสเซอร์ เครื่องจ่ายไฟ และเครื่องควบคุมระบบควบคุมเรียงลำดับความปลอดภัยในการทำงานและโครงงานอิเล็กทรอนิกส์สามารถเข้าทำงานในระดับช่างฝีมือ
โอกาสในการมีงานทำ
ช่างเทคนิคไฟฟ้าสามารถเลือกทำงานได้ทั้งประกอบอาชีพอิสระเช่นรับติดตั้งระบบไฟฟ้าเครื่องทำความเย็น และเครื่องปรับอากาศ หรือรับราชการ เช่น กรมโยธาธิการ กรมทางหลวง หรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้านครหลวงหรือภูมิภาคการประปานครหลวงหรือภูมิภาคหรือเป็นลูกจ้างของสถานประกอบการเนื่องจากไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและวงการธุรกิจทั้งทางด้านพาณิชยกรรมอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมบริการซึ่งต้องอาศัยไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบเกือบทั้งหมด อาชีพช่างเทคนิคไฟฟ้าจึงเป็นอาชีพที่อยู่ในความต้องการของตลาดแรงงาน
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
ผู้ที่รับราชการหรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจจะเลื่อนขั้นเงินเดือนและตำแหน่งตามกฎระเบียบที่วางไว้ ส่วนงานเอกชนนั้นเมื่อระยะเวลาการทำงานเพิ่มขึ้นรวมทั้งมีความสามารถและชำนาญงานก็จะได้เลื่อนตำแหน่งงานและเงินเดือนสูงขึ้นตามความสามารถ และประสบการณ์ นอกจากนี้ยังสามารถหารายได้พิเศษโดยรับติดตั้งระบบไฟฟ้าอาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงานหรือโรงงานอุตสาหกรรมผู้มีพื้นฐานอาชีพนี้สามารถฝึกเพิ่มเติมฝีมือในหลักสูตรการฝึกยกระดับฝีมือใน สพร. อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ตลาดแรงงานต้องการมาก เนื่องจากกระบวนการทำงานและกระบวนการผลิตจะเปลี่ยนไปในทางการควบคุมแบบอัตโนมัติซึ่งต้องใช้การควบคุมที่แน่นอนและแม่นยำจึงต้องอาศัยอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปช่วยในการควบคุ
สภาพการจ้างงาน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น